วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บันทึกการเรียนครั้งที่ 6


  บันทึกอนุทิน

   วิชา การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย

    อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ  แจ่มถิน

      วัน ศุกร์ ที่ 19 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2556
เวลาเข้าสอน 13.10 น. เวลาเข้าเรียน 13.00 น. เวลาเลิกเรียน 16.40 น.

สิ่งที่ได้จากการเรียนครั้งนี้

  แนวทางการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย

  1. การจัดประสบการณ์ทางภาษาที่เน้นทักษะทางภาษา 
            Skill Approch
         - ให้เด็กรู้จักส่วนย่อยๆของภาษา
         - การประสมคำ
         - ความหมายของคำ
         - นำมาประกอบเป็นประโยค
         - การแจกรูปสะกดคำ การเขียน
         - ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติ
          - ไม่สอดคล้องกับลักษณะการเรียนรู้ภาษาของเด็ก

การแจกลูกของภาษา













การอ่านสะกดคำ













การแจกลูกขของภาษาและการอ่านสะกดคำ
- ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติการใช้ภาษาของเด็ก
- ไม่สอดคล้องกับลักษณะการเรียนรู้ภาษาของเด็ก

 Keneth Goodman
    - เสนอแนวทางการสอนแบบธรรมชาติ
    - มีความเชื่อมโยงระหว่างภาษากับความคิด
    - แนวทางการสอนมีพื้นฐานมาจากการเรียนรู้และธรรมชาติของเด็ก
    ธรรมชาติของเด็กปฐมวัย
     - สนใจ อยากรู้อยากเห็นสิ่งรอบๆตัว
     - ช่างสงสัย ช่างซักถาม
     - มีคามคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ
     - ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
     - เลียนแบบคนรอบข้าง

   2. การสอนภาษแบบธรรมชาติ
          Whole Language
       ทฤษฎีมีอิทธิพลต่อการสอนภาษาแบบธรรมชาติ
           Dewey / Piaget / Vygotsky / Haliday
              - เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์และการลงมือกระทำ
       - การเรียนรู้จากกิจกรรม การเคลื่อนไหวของตนเอง และการได้สัมผัสกับสิ่งต่างๆ แล้วสร้างความรู้ขึ้นมาด้วยตนเอง
             - อิทธิพลองสังคมและบุคคลอื่นๆ ที่มีผลต่อการเรียนรู้ภาษาของเด็ก
       การสอนภาษาแบบธรรมชาติ
            - สอนบูรณาการ / องค์รวม
            - สอนในสิ่งที่เด็กสนใจ และมีความหมายสำหรับเด็ก
            - สอนสิ่งที่ใกล้ตัวเองและอยู่ในชีวิตประจำวัน
            - สอนแทรกการฝึกทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน ไปพร้อมกับการทำกิจกรรม
            - ไม่เข้มงวดกับการท่อง สะกด
            -ไม่บังคบให้เด็กเขียน
  หลักของการสอนภาษาแบบธรรมชาติ
     1. การจัดสภาพแวดล้อม
         - ตัวหนังสือที่ปรากฏในห้องเรียนต้องมีเป้าหมายในการใช้จริงๆ
         - หนังสือที่ใช้จะต้องเป็นหนังสือที่ใช้ภาษาที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัว
         - เด็กมีส่วนในการจัดสภาพแวดล้อม
     2. การสื่อสารที่มีความหมาย
         - เด็กสื่อสารโดยมีพื้นฐานจากประสบการณ์จริง
         - เด็กอ่านและเขียนอย่างมีจุดมุ่งหมาย
        - เด็กได้ใช้เวลาในการอ่านและเขียนตามโอกาส
  3. การเป็นแบบอย่าง
         - ครูอ่านและเขียนอย่างมีจุดมุ่งหมายในการใช้ให้เด็กเห็น
        - ครูเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กเห็นว่าการอ่านเป็นเรื่องสนุก
    4. การตั้งความคาดหวัง
        - ครูเชื่อว่าเด็กมีความสามารถในการอ่านและเขียน
        - เด็กสามารถอ่าน เขียน ได้ดีและถูกต้องยิ่งขึ้น
   5. การคาดคะเน
        - เด็กมีโอกาสในการทดลองภาษา
        - เด็กได้คาดเดา หรือคาดคะเนเรื่องที่อ่าน
       - ไม่คาดหวังให้เด็กอ่านและเขียนได้เหมอนผู้ใหญ่
    6. การใช้ข้อมูลย้อนกลับ
           - ตอบนองความพยายามในการใช้ภาษาของเด็ก
          - ยอมรับการอ่านและการเขียนของเด็ก
          - ตอบสนองเด็กให้เหมาะสมกับสถานการณ์
 7. การยอมรับนับถือ
          - เด็กมีความแตกต่างระหว่าบุคล
           - เด็กได้เลือกกิจกรรมที่จะเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
          - ในช่วงเวลาเดียวกันไม่จำเป็นต้องกระทำสิ่งเดียวกัน
          - ไม่ทำกิจกรรมตามจังหวะขั้นตอน
     8. การสร้างความรู้สึกเชื่อมั่น
         - ให้เด็กรู้สึกปลอดภัยเมื่อใช้ภาษา
        - ครูจะต้องทำให้เด็กไม่กลัวที่จะขอความช่วยเหลือ
        - ไม่ตราหน้าเด็กว่าไม่มีความสารถ
        - มีความเชื่อมั่นว่าตนมีความสามารถ
 บทบาทครู
 - ครูคาดหวังเด็กแต่คนแตกต่างกัน
 - ใช้ประสบการณ์ตรงในการสนับสนุนการอ่านการเขียน
 - ครูควรยอมรับกับความไม่ถูกครบถ้วนของเด็ก
ครูสร้างความสนใจ ในคำและสิ่งพิมพ์

สรุปสิ่งที่ได้จากการเรียนครั้งนี้

             ได้รู้ถึงแนวทางในการจัดประสบการณ์ทางภาษาให้กับเด็กปฐมวัยว่าเราควรจะมีแนวทางในการจัดแบบใดและจะสามารถทำให้เด็กรับรู้ได้ได้อย่างไร และได้รู้ว่าธรรมชาติของเด็กเป็นแบบใดเราก็ควรที่จะเปิดโอกาศให้เด็กได้คิดได้แสดงออกด้วยตนเองควรให้อิสระแก่เด็กเพราะเด็กในวัยนี้ยังไม่พร้อมที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่เข้าใจได้ยาก ควรสอนตามใจเด็กในสิ่งที่เด็กอยากทำไม่ใช่สอนตามใจเรา และที่สำคัญภาษาธรรมชาติจะยึดธรรมชาติของเด็กจริงๆจะต้องไม่ยึดเอาการอ่านสะกดคำกับเด็ก และจากที่ได้ดูวีดีโอก็ได้ทราบว่าเด็กแต่ละคนจะมีพัฒนาการในการเรียนรู้ที่แตกต่างกันเพราะฉะนั้นเราไม่ควรไปคาดหวังให้เด็กทุกคนทำทุกอย่างได้เหมือนกันครูไม่ควรที่จะไปบังคับหรือปิดกั้นเด็ก








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น